วิธีแทงบอล มีกี่รูปแบบ แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร

ทำความรู้จักกับรูปแบบการแทงบอลที่มีหลากหลาย

การแทงบอลถือเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศที่ฟุตบอลเป็นกีฬายอดนิยม ไม่ว่าจะเป็นการแทงบอลในลีกต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งการแทงบอลโลก การแทงบอลนั้นมีหลากหลายรูปแบบที่ผู้เล่นสามารถเลือกใช้ ซึ่งแต่ละรูปแบบก็มีวิธีการแทงและข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มต้นหรือยังไม่เข้าใจรูปแบบการแทงบอลที่มีอยู่ในปัจจุบัน บทความนี้จะช่วยอธิบายให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น

1.1 แทงบอลเดี่ยว (Single Bet)

การแทงบอลเดี่ยว หรือที่เรียกกันว่า “บอลเต็ง” เป็นรูปแบบการแทงบอลที่ง่ายและได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะไม่ต้องมีความซับซ้อนในการคิดวิเคราะห์ ผู้เล่นเลือกแทงแค่คู่เดียวในแต่ละบิล โดยการทายผลของคู่นั้นว่าฝ่ายไหนจะชนะ เช่น ทีม A ชนะ หรือทีม B ชนะ การแทงบอลเดี่ยวสามารถแทงได้ทั้งในรูปแบบของการแทงผลบอลเต็มเวลา หรือการแทงแบบคู่/คี่, สูง/ต่ำ ก็ได้

ข้อดีของการแทงบอลเดี่ยวคือโอกาสในการชนะจะค่อนข้างชัดเจน หากวิเคราะห์ดี ๆ ก็สามารถสร้างกำไรได้ง่าย แต่ข้อเสียคือการที่เราเลือกแทงแค่คู่เดียว อาจทำให้จำนวนกำไรไม่มากเท่ากับการแทงบอลรูปแบบอื่น ๆ

1.2 แทงบอลสเต็ป (Parlay)

การแทงบอลสเต็ป หรือ “บอลชุด” คือการแทงบอลหลายคู่ในบิลเดียวกัน โดยต้องเลือกทายผลให้ถูกทุกคู่ในบิลถึงจะชนะการเดิมพัน รูปแบบนี้มีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีอัตราการจ่ายเงินที่สูงมากเช่นกัน เนื่องจากคูณจำนวนเงินเดิมพันหลายครั้งตามจำนวนคู่ที่เลือก

ข้อดีของการแทงบอลสเต็ปคือผลตอบแทนที่สูงมากหากสามารถทายผลถูกทุกคู่ แต่ข้อเสียคือหากมีคู่ใดคู่หนึ่งทายผิด บิลนั้นก็จะถือว่าเสียทั้งหมด ดังนั้นก่อนที่จะแทงบอลสเต็ป ควรวิเคราะห์ข้อมูลให้ดี

1.3 แทงบอลสูงต่ำ (Over/Under)

การแทงบอลสูงต่ำเป็นการทายผลรวมประตูที่เกิดขึ้นในแมทช์นั้น ว่าจะสูงหรือต่ำกว่าที่กำหนดโดยเจ้ามือ เช่น หากคู่หนึ่งมีอัตราต่อรองที่ 2.5 ประตู หากทายว่าผลรวมของทั้งสองทีมจะยิงรวมกันได้มากกว่า 2.5 ประตู ก็เรียกว่า “สูง” แต่หากทายว่าจะยิงได้น้อยกว่า 2.5 ประตู ก็เรียกว่า “ต่ำ” นอกจากนี้ การแทงบอลสูงต่ำยังสามารถทำได้ในระหว่างเกม (Live Betting) โดยการแทงสูงต่ำในช่วงเวลาที่ต่างกัน เช่น สูงต่ำในครึ่งแรก หรือสูงต่ำในครึ่งหลัง

ข้อดีของการแทงบอลสูงต่ำคือสามารถสร้างกำไรได้ง่าย เพราะไม่จำเป็นต้องทายผลของทีมใดทีมหนึ่งโดยตรง แค่ทายว่าผลรวมประตูจะเป็นไปตามที่กำหนดหรือไม่ ซึ่งเป็นทางเลือกที่นิยมในหมู่คนที่ไม่อยากเสี่ยงทายทีมที่ชนะ แต่ข้อเสียคือมีการคาดเดาค่อนข้างยาก เพราะผลการแข่งขันอาจไม่สามารถคาดเดาได้อย่างแม่นยำ

1.4 แทงบอลแฮนดิแคป (Handicap)

การแทงบอลแฮนดิแคป เป็นการแทงบอลที่มีการปรับแต้มต่อ (Handicap) ให้ทีมที่อ่อนกว่า โดยการที่เจ้ามือจะกำหนดอัตราการต่อรองให้กับทีมที่มีศักยภาพด้อยกว่า เพื่อทำให้การเดิมพันมีความเสี่ยงที่เท่าเทียมกันมากขึ้น เช่น ทีมที่มีฟอร์มดีกว่าจะต้องต่อทีมที่อ่อนกว่า โดยการเพิ่มหรือลดจำนวนประตูที่ทีมที่แข็งแกร่งจะต้องยิงให้ได้ก่อนเพื่อให้ชนะ

ข้อดีของการแทงบอลแฮนดิแคปคือโอกาสในการทายผลชนะจะใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากขึ้น และช่วยให้การเดิมพันมีความท้าทายมากขึ้น แต่ข้อเสียคือผู้เล่นอาจจะรู้สึกว่าการแข่งขันมีความซับซ้อนเพราะต้องพิจารณาคะแนนแฮนดิแคปด้วย

การแทงบอลในรูปแบบอื่น ๆ และข้อแตกต่างที่สำคัญ

นอกจากการแทงบอลในรูปแบบที่ได้กล่าวไปแล้ว ยังมีรูปแบบอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยมในวงการฟุตบอล ซึ่งแต่ละรูปแบบก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป โดยในการเลือกวิธีการแทงบอล ควรพิจารณาจากความชอบส่วนตัวและความเสี่ยงที่ยอมรับได้

2.1 แทงบอล 1X2 (Three-Way Bet)

แทงบอล 1X2 หรือการแทงแบบสามทาง คือการทายผลว่าทีมเจ้าบ้าน (1) จะชนะ ทีมเยือน (2) หรือผลเสมอ (X) ซึ่งเป็นการแทงที่ง่ายที่สุด เพราะไม่ต้องมีการคิดคำนวณเกี่ยวกับแฮนดิแคปหรือจำนวนประตูที่เกิดขึ้นในเกม

ข้อดีของการแทงบอล 1X2 คือมันง่ายและตรงไปตรงมามากที่สุด ผู้เล่นสามารถเลือกแทงทีมที่คาดว่าจะชนะ หรือเลือกเสมอก็ได้ ข้อเสียคือการที่มีตัวเลือกแค่ 3 ตัวเลือก อาจทำให้ผลกำไรไม่ได้มากนักถ้าเทียบกับการแทงบอลรูปแบบอื่น ๆ

2.2 การแทงบอลแบบสองโอกาส (Double Chance)

การแทงบอลแบบสองโอกาส คือการทายผลของเกมในสองตัวเลือก เช่น ทายว่าเจ้าบ้านจะชนะหรือเสมอ หรือทายว่าเยือนจะชนะหรือเสมอ เป็นต้น ซึ่งรูปแบบนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการชนะให้กับผู้เล่น เนื่องจากมีตัวเลือกหลายตัวเลือกให้ทายผล

ข้อดีของการแทงบอลสองโอกาสคือเพิ่มโอกาสชนะการเดิมพัน เนื่องจากมีการเลือกมากขึ้น แต่ข้อเสียคืออัตราการจ่ายเงินจะต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการแทงบอลรูปแบบอื่น

2.3 การแทงบอลแบบทายผลครึ่งแรก/ครึ่งหลัง

การทายผลครึ่งแรกและครึ่งหลังเป็นการทายผลที่เกิดขึ้นในครึ่งแรกของเกมหรือครึ่งหลัง ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกทายว่าทีมไหนจะเป็นฝ่ายนำหรือผลจะเสมอกันในช่วงเวลานั้น ๆ โดยรูปแบบนี้ถือเป็นการทายที่มีความสนุกและท้าทาย

ข้อดีคือสามารถสร้างกำไรได้รวดเร็วหากสามารถทายผลถูกในช่วงเวลาที่กำหนด แต่ข้อเสียคือการคาดเดาผลในช่วงเวลาเฉพาะอาจมีความยากและไม่สามารถมั่นใจได้ 100%

สรุป

การแทงบอลมีหลายรูปแบบที่ผู้เล่นสามารถเลือกใช้ตามความสะดวกและความชอบของตัวเอง ตั้งแต่การแทงบอลเดี่ยวที่ง่ายและไม่ซับซ้อน ไปจนถึงการแทงบอลสเต็ปที่มีอัตราการจ่ายสูงแต่มีความเสี่ยงมาก การเลือกวิธีการแทงบอลที่เหมาะสมกับตัวเองนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ความชำนาญในการวิเคราะห์บอล, ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และจำนวนเงินที่พร้อมจะลงทุน

การเข้าใจในแต่ละรูปแบบของการแทงบอลจะช่วยให้คุณมีโอกาสในการชนะการเดิมพันมากขึ้น ดังนั้น การศึกษารูปแบบต่าง ๆ ให้ละเอียดเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในโลกของการพนันฟุตบอลได้มากยิ่งขึ้น

Scroll to Top